fbpx

Resale Market: Fashionable Investment ตลาดรีเซลล์ ขุมทรัพย์แห่งการลงทุนด้านแฟชั่น

Text: Santichai Apornsri

เมื่อครั้งที่ DIOR x AIR JORDAN 1 เตรียมวางขายครั้งแรก ซึ่งมีแค่ 8,000 คู่ทั่วโลก โดยมีผู้สนใจลงทะเบียนต้องการซื้อสูงถึง 5 ล้านคน สนนราคาขายตอนนั้นสำหรับรุ่น low-top ราคาอยู่ที่ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนรุ่น high-top ราคาอยู่ที่ 2,200 ดอลลาร์สหรัฐ แน่นอนว่าเมื่อเปิดขาย รองเท้าทั้ง 8,000 คู่ ขายหมดภายในพริบตา และไม่นานหลังจากนั้นก็ปรากฏการขายรีเซลตามเว็บไซต์ที่ขายของรีเซลต่างๆ ในราคาคู่ละ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ กลายเป็นสนีกเกอร์ที่มีราคารีเซลสูงสุดทะลุเพดาน และทำให้ผู้คนหันมาตั้งคำถามกับตลาดรีเซล ทั้งในแง่กลไกราคาตลาดและในแง่การลงทุน

แม้เราจะรู้อยู่แล้วว่าของบางอย่างนั้นขายในตลาดรีเซลได้ราคาสูง และควรค่าแก่การลงทุน โดยเฉพาะแบรนด์ตัว H ที่กระเป๋าในช็อปราคาอยู่ที่สาม-สี่แสน แต่ใช่ว่าทุกคนจะหาซื้อในช็อปได้ ทำให้ต้องซื้อราคารีเซลนอกช็อป ซึ่งราคาเขยิบขึ้นไปกว่าเท่าตัว แต่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถหากระเป๋าเคลลี่ เบอร์กิ้น คอนสตองซ์ มาขายในตลาดรีเซลได้ และดูเหมือนว่าตอนนี้ไม่ใช่แค่แอร์เมสแล้ว แม้แต่ชาเนล หลุยส์ วิตตอง กุชชี่ ฯลฯ ก็กลายมาเป็นไอเท็มทำเงินในตลาดรีเซลเช่นเดียวกัน

คาดการณ์กันว่าตลาดรีเซลปัจจุบันมีมูลค่าการซื้อ-ขายอยู่ที่ 25-30 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะเติบโตสูงขึ้นปีละ 10-15% ในอีก 10 ปีข้างหน้า โดยมีผู้เล่นในตลาดนี้อย่าง The RealReal, Thredup, Ebay และ Vinted ซึ่งมีมาร์เก็ตแชร์รวมๆ กันอยู่ประมาณ 25-30% ที่เหลือคือบรรดาการขายรายย่อยในประเทศต่างๆ อย่างที่เห็นกันในเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม

สิ่งที่ทำให้ตลาดรีเซลกลับมาเติบโตอย่างสูง คือการเกิดขึ้น และความนิยมของแฟชั่นไอเท็มในแบบ ‘ของมันต้องมี’ ไม่ว่าจะเป็น Louis Vuitton x Supreme หลายปีที่ผ่านมา หรือ DIOR x AIR JORDAN 1 อย่างที่ได้กล่าวไป ซึ่งเป็นของเอ็กซ์คลูซีฟที่จะหาไม่ได้อีกแล้ว ไม่ใช่ชิ้นคลาสสิกที่จะผลิตอยู่เรื่อยๆ และแน่นอนว่าในอนาคตจะกลายเป็นแรร์ไอเท็มมูลค่ามหาศาล ที่ก่อให้เกิดดีมานด์อย่างสูงสุดและปรากฏการณ์ราคารีเซลทะลุเพดาน

ประการต่อมาก็คือเทรนด์ ของที่หาได้ทั่วไป เดินไปซื้อในช็อปเมื่อไรก็ได้กลายเป็นของที่ใครๆ ก็ใช้ชนกันนั้นได้รับความสนใจน้อยกว่าการได้สวมใส่ของวินเทจแบบแรร์ไอเอท็มในแบบที่เดินเข้าไปซื้อในช็อปไม่ได้ ซึ่งกลายเป็น   เทรนด์ที่ต้องแข่งขันเหมือนดังเช่นดาราฮอลลีวู้ดที่เริ่มใส่เดรสวินเทจจากของ Thierry Mugler, Jean Paul Gaultier, Savaltore Ferragamo ฯลฯ ซึ่งทำให้ตลาดรีเซลของวินเทจกลับมาคึกคัก

ประการที่สามก็คือเทรนด์ ‘ความยั่งยืน’ ที่ทำให้แบรนด์ผลิตของน้อยลง และผู้บริโภคก็ซื้อของน้อยลง ใช้ของให้นานมากขึ้น ถนอมของมากขึ้น และคิดมากขึ้นหากจะต้องซื้อของใหม่ โดยเฉพาะในประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน  ข้อมูลจาก The Ellen MacArthur Foundation (EMF)  พบว่าปัจจุบันคนเราซื้อเสื้อผ้าลดลง 40% จากเมื่อสิบปีก่อน และคนกว่า 70% คิดมากขึ้นเมื่อต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่  ที่สำคัญยังเป็นยุคแห่งข้อมูลข่าวสารทำให้คนตระหนักในเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับการบริโภค เช่น หากซื้อกระเป๋ามือสองจะช่วยลดผล กระทบทางสิ่งแวดล้อมได้สูงถึง 91% หรือหากสามารถยืดอายุการใช้งานไอเท็มต่างๆ ไปอีกเก้าเดือน ก็จะช่วยลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมไปได้อีก 30-40%  สิ่งเหล่านี้กลายมาเป็นอุดมคติในการใช้ชีวิตและบริโคของ Gen Z ซึ่งเป็นเจเนอเรชั่นที่มีอำนาจการซื้อในปัจจุบันนี้

สิ่งเหล่านี้ทำให้ตลาดรีเซลกลายมาเป็นตลาดและขุมทรัพย์แห่งใหม่ในการลงทุน ทั้งจากแบรนด์เองและนักลงทุนรายย่อยที่ต้องการทำกำไรจากแฟชั่นไอเท็มทั้งหลาย 

TheRealReal เว็บไซต์ขายของรีเซลที่กำลังมาแรงที่สุดกลายเป็นที่จับตามอง โดยเฉพาะในปี 2019 ที่ผ่านมามีรายได้สูงถึง 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำให้ Gucci ตัดสินใจเข้าร่วมกับ The RealReal ในการขายสินค้า Gucci ขณะเดียวกันก็มีอีกหลากหลายแบรนด์ที่พยายามทำสิ่งที่เรียกว่า Circular Economy ซื้อมาขายไปด้วยแบรนด์เป็นคนบริหารจัดการเอง เพราะเล็งเห็นถึงการเติบโตของตลาดรีเซลตรงนี้ 

ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ Valentino โดยเริ่มต้นโครงการที่ชื่อว่า Valentino Vintage ให้ลูกค้านำเสื้อผ้าเก่าของแบรนด์ Valentino มาขายคืนได้ โดยจะมีการประเมินราคาให้จากช็อปและหากลูกค้ายินดีกับราคาที่จะได้รับการประเมินก็จะได้รับเครดิตสำหรับใช้จ่ายในการซื้อสินค้าใหม่ในร้านบูติกของวาเลนติโนต่อไป ในขณะที่วาเลนติโนก็จะนำสินค้าที่รับซื้อนี้ไปสร้างสรรค์ใหม่ออกมาขายภายใต้ไลน์ที่ชื่อว่า Valentino Vintage

Supreme X Louis Vuitton: All the looks from the collection.

จะเห็นได้ว่าแฟชั่น นัยหนึ่งคือของหรูหราฟุ่มเฟือย แต่นัยหนึ่งกลายเป็นตลาดการลงทุนที่มีมูลค่ามหาศาล เพียงแค่ต้องรู้จักตลาดว่าของสิ่งไหน แบรนด์อะไร ตลาดการซื้อ-ขายที่น่าสนใจอยู่ที่ไหน บางทีคุณอาจจะเปลี่ยนจากแฟขั่นนิสต้าที่เน้นการซื้อตามเทรนด์มาสวมใส่กลายมาเป็นนักลงทุนในตลาดรีเซลก็เป็นได้

5 แฟชั่นไอเท็มราคาดีไม่มีตกในตลาดรีเซล

1. กระเป๋า Gucci รุ่น Marmont

2. กระเป๋า Dior  รุ่น Saddle

3. รองเท้า Gucci รุ่น Princetown Slippers

4. กระเป๋า Fendi รุ่น Baguette

5. รองเท้า Nike x Off-white Air Force 1

Digiqole ad

บทความที่น่าสนใจ