fbpx

สองหมื่นเจ็ด บุหรี่ไฟฟ้า ผู้รักษาสันติราษฏร์: เมื่อ ‘ตำรวจเลว’ สร้างผลกระทบต่อการท่องเที่ยวไทยในระดับสากล

กล่าวกันถึงบทบาทของ ‘ผู้พิทักษ์สันติราษฏร์’ แล้วนั้น โดยหลักยึดปฏิบัติโดยทั่วกันตามที่เข้าใจ คือการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขของประชาชน สร้างความปลอดภัย อุ่นใจ ห่างไกลโจรผู้ร้าย และทำให้แน่ใจ ว่าจะไม่มีเหตุเภทภัยใดๆ เกิดขึ้น รบกวนความสงบสุขของบ้านเมือง

แต่ในอีกทางหนึ่ง ถ้าแต่ไหนแต่ไรมา ผู้ใหญ่ใช้คำขู่เด็กดื้อว่า ‘ถ้ายังไม่หยุดดื้อ จะให้ตำรวจมาจับ!’ คือสิ่งที่ได้ยินกันคุ้นชินหู บทบาทของผู้พิทักษ์สันติราษฏร์ที่กล่าวไปข้างต้น ก็คงจะไม่ได้เป็นไปตามอุดมคติมากนัก….

แต่ก็อย่างว่า เช่นเดียวกับทุกองค์กร ทุกหน่วยงาน มีดีมีเลวปะปนกัน แม้ว่าองค์กรที่ขึ้นชื่อว่าตำรวจ มันควรจะต้อง ‘ดี’ กลบ ‘เลว’ จนเป็นเรื่องสามัญ แต่ภาพจำของประชาชน ความเชื่อใจที่มีต่อหน่วยงานนี้ ก็ดูน้อยต่ำ เรียกว่าถ้าไม่เข้าไปข้องแวะกันได้มากเท่าไร ก็น่าจะดีกับชีวิตและสวัสดิภาพมากเท่านั้น

ข่มขู่ รีดไถ ใช้กำลังเกินขอบเขตอำนาจ วางท่าบาตรใหญ่ สารพัดวิสัยตำรวจไทย (และตำรวจประเทศอื่นๆ ในบางส่วน…) จะสาธยายความ

และความงามหน้าก็ได้บังเกิด และสร้างความเสื่อมเสียให้กับตำรวจไทย และประเทศชาติขึ้นมาอีกหน คราวนี้ ดังปังฟังชัดยาวไกลไปต่างแดน และอาจจะทั่วโลก ที่ชัดยิ่งกว่าเดิม

ถ้าตามข่าวในรอบสัปดาห์กว่าๆ ที่ผ่านมา น่าจะพบว่า กรณีของนักแสดงสาวชาวไต้หวัน ที่โพสต์เกี่ยวกับประสบการณ์ ‘ถูกไถ’ จากตำรวจไทย กรณีของบุหรี่ไฟฟ้าน่าสงสัย พร้อมคลิปหลักฐานยืนยันชัดเจน ด้วยจำนวนเงินที่ไม่ค่อยสวยนัก เป็นหลักที่สองหมื่นเจ็ด กลายเป็นวิวาทะที่กล่าวถึงกันอย่างกว้างขวาง

แรกเริ่ม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปัดพ้นผิดพัลวัน หาหลักฐานยืนยัน ว่านักแสดงสาวเมาโวยวายไม่ได้สติ สร้างเรื่องปั้นแต่งใส่ร้ายตำรวจไทยวินัยดี สร้างความบัดสีให้ประเทศชาติ แต่พอมีหลักฐานยืนยันทั้งวิดีโอและพยานบุคคล ก็จำนวนยอมรับเสียงอ่อยหน้าแห้ง ว่าสงสัยจะเกิดขึ้นจริงๆ

งานนี้ร้อนไปทั้งองคาพยพ และการ ‘ทำลายศพ’ ก็เริ่มต้นขึ้น หกตำรวจที่เกี่ยวข้อง ถูกลงโทษอย่างหนัก สังเวยตัดตอนเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ก่อนจะมีใครถามว่าทำไมไม่แก้ไขในองค์กร บ้างก็ว่าตำรวจดีๆ ก็มีนะ แต่เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ความเชื่อมั่นที่ต่ำ ก็ยิ่งติดลบจนหดหู่

ซ้ำร้าย ตอนพยานบุคคลที่เป็นชายสิงคโปร์ มายืนยันว่า ย่านห้วยขวางสถานที่เกิดเหตุ มีบุหรี่ไฟฟ้าขายพร้อมร้านกัญชากันโทนโท่ จนเข้าใจว่าเป็นของถูกต้องตามกฏหมาย ตำรวจไทยก็ขมีขมัน สอบถามไล่เบี้ยไป ว่าชายดังกล่าว เข้าเมืองมาได้อย่างไร มีวีซ่ายืนยันอย่างถูกกฎหมายรึเปล่า

และนั่นคือดอกสองที่สร้างความฉิบหายอย่างร้ายแรงยิ่ง ….

เพราะสิงคโปร์ คือหนึ่งในประเทศที่สามารถเข้าประเทศไทยได้ โดยไม่ต้องมีวีซ่ายืนยัน เรียกว่าหนังสือเดินทางจากประเทศนั้น ทรงพลังระดับต้นๆ ของโลก การไล่เบี้ยกล่าวหาว่าอีกฝ่ายเป็นคนเถื่อนเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย ก็เหมือนประจานความไม่รู้เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ของฝ่ายทางการไทยเองไปหนึ่งดอก

ส่วนดอกสองที่น่าจะร้ายแรงไม่แพ้กัน เพราะเล่นไปไล่เบี้ยประเทศฟรีวีซ่า งานนี้ประเทศอื่นๆ ที่เข้าข่าย ก็อาจจะเบรกกันตัวโก่ง ว่าจะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวดีหรือไม่ ไหนจะก่อนหน้านั้นมีเรื่องตำรวจนำเที่ยว มาคราวนี้เฉี่ยวไปเรื่องรีดไถ รอบหน้าจะเกิดอะไร ก็สุดจะคาดเดา เข้ามาแล้วเสี่ยงภัยเหมือนเล่นสล็อตในบ่อนออนไลน์ผิดกฎหมาย ไปประเทศอื่นดีกว่าหรือเปล่า….

การท่องเที่ยวเพิ่งจะฟื้นตัว ก็มีอันต้องหม่นหมอง เพราะเงินสองหมื่นเจ็ดไปด้วยประการนี้ ….

เอาจริงๆ จะโทษตำรวจทั้งหกคนที่รีดไถจนเป็นวิสัยก็คงไม่ยุติธรรมนัก ธรรมเนียมกินสินบาทคาดสินบน มันคือของที่อยู่คู่วัฒนธรรมองค์กรตำรวจไทยมาแต่เนิ่นแต่นาน เราๆ ชาวบ้านก็รู้เห็นกันดี เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่แก้ให้ตายยังไงก็ไม่จบ เพราะต้นตอของปัญหาที่แท้จริง มันอยู่ในระดับที่ไม่สามารถแก้ไข หรือแตะต้องอะไรได้เลย

มันถึงเวลาที่เราต้องเอาจริงกันแล้วหรือยัง ถ้าหากจะยังอยากหากินกับการเป็นไทยแลนด์แดนสไมล์สบายท่องเที่ยว ที่นานาชาติต่างให้การยอมรับ

หรือจะคงเอกลักษณ์ความเถื่อนดิบประหนึ่งประเทศแถบอเมริกาใต้ให้นักท่องเที่ยวหวาดเสียวเล่น เหมาะสำหรับคนรักการผจญภัยและคนที่อยากหาที่ตายเพราะเบื่อชีวิตเต็มแก่

เพราะเรื่องที่เหมือนจะเป็น ‘เรื่องแค่นี้’ นั้น มันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย แต่มันสร้างรอยบากที่ลึกร้าวลงไป จากที่ช้ำอยู่แล้ว ให้หนักหน่วงยิ่งกว่าเดิม และคนที่ต้องทนอยู่กับมัน ก็คือประชาชนที่ต้องใช้ชีวิตหาเช้ากินค่ำกันทุกเมื่อเชื่อวันนั่นเอง

Digiqole ad

บทความที่น่าสนใจ